Virtual Experience New Normal for Events
ประสบการณ์เสมือนจริงสร้าง New Normal ให้งานอีเว้นท์
จากวิกฤติ COVID-19 ที่ได้แพร่ระบาดไปยังหลายประเทศ ทำให้มีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดโดยการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) นอกจากนี้ในหลายประเทศที่มียอดจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจนทำให้มีมาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น คือการปิดเมือง – ปิดประเทศ (Lockdown) โดยให้ประชาชนอยู่บ้านและควบคุมการเดินทางข้ามเมืองหรือควบคุมเวลาเปิด ปิด ของสถานที่สุ่มเสี่ยง เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้คนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน เริ่มมีเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นกับการเรียน การทำงาน การท่องเที่ยว เพื่อความบันเทิง งานศิลปะและการท่องเที่ยว รวมไปถึงเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ จากช่องทางออนไลน์อีกด้วย
ประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Experience) คือ ประสบการณ์ที่ได้รับจากการจำลองเทคโนโลยีในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น VR (Virtual Reality) AR (Augmented Reality) การ Live Streaming ซึ่งสามารถทำให้ผู้คนเกิดการมีส่วนร่วมก่อให้เกิดการสร้างประสบการณ์เสมือนจริง โดยเทคโนโลยีเหล่านี้เกิดขึ้นมาซักระยะแล้ว แต่ไม่ได้เป็นที่นิยมมากเหมือนในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เกิดเป็น New Normal หรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันผ่านโลกเสมือนจริงมากขึ้น ในด้านการจัดอีเว้นท์แน่นอนว่าได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นจากมาตรการ Social Distancing , การ Lockdown รวมไปถึงการประกาศห้ามจัดกิจกรรมหรือชุมนุมกันอีกด้วย จึงทำให้การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาสร้างประสบการณ์เสมือนจริงผ่านโลกออนไลน์ ที่เป็นการสร้างประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นงาน Exhibition, Fashion Show การ Product Launching หรือการจัด Concert Online นั่นเอง
1. Virtual Exhibition
การจัดนิทรรศการเสมือนจริง จริงๆแล้วการจัดนิทรรศการออนไลน์เกิดขึ้นมานานแล้ว เป็นการรวบรวมนำสิ่งที่ต้องการจะจัดแสดงนำเสนอให้น่าสนใจในรูปแบบออนไลน์ แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการใช้ เทคโนโลยี เช่น การสร้าง VR (Virtual Reality) เป็นการจำลองภาพเสมือนจริงแบบ 360 องศา ทำให้สามารถเห็นบรรยากาศเหมือนว่าได้เข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริงๆเลย
CASE : พิพิธภัณฑ์ ชื่อดัง ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่นำภาพแบบ 360 องศา สามารถเลือกเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในมุมต่างๆได้โดยสามารถหมุนดูได้ทุกมุมเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ ทำให้เราสามารถมองเห็นและสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ผ่านโลกออนไลน์ได้อย่างดีเยี่ยม
2. Virtual Fashion Show
การจัดแฟชั่นโชว์ที่หลายๆคนรู้จัก คงจะเป็นการเชิญเหล่าดาราดัง Celebrity Influencer เพื่อไปนั่งชม ยิ่งใครได้นั่งแถวหน้า (Front roll) ก็คงจะถือว่าเป็นเกียรติอย่างมาก แต่เนื่องจากไม่สามารถจัด Fashion Show ตามปกติ จึงมีการใช้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น VR หรือ AR ที่เข้ามาช่วยเปิดประสบการณ์การดู Run way ของผู้เข้าร่วมงานให้น่าตื่นตาและเข้าถึงผู้คนทั่วไปได้มากขึ้น
CASE :Shanghai Fashion week นำ AR มาใช้ ในการสร้าง Virtual Runway โดยเกิดขึ้นจาก TMall บริษัทยักษ์ใหญ่ในเครือ Alibaba ได้ร่วมมือกับแบรนด์ดังกว่า 150 แบรนด์เพื่อสร้าง Fashion Show ผ่านการ Live Streaming และ AR (Augmented Reality) เป็นการนำภาพจริงและภาพเสมือนที่สร้างมาเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้แฟชั่นโชว์ครั้งนี้น่าสนใจและน่าติดตาม ที่พิเศษไปกว่านั้นคือมี Function ในการซื้อสินค้าแบบ Real-time ทำให้สร้างยอดขายได้กว่า 20 ล้านหยวนเลยทีเดียว
CASE : Top Shop แฟชั่น Run way ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ โดย Top Shop ได้นำ VR มาให้ผู้บริโภคธรรมดาได้ดูแฟชั่นโชว์แบบ Front Row ประหนึ่งว่าเป็น Celebrity ชื่อดังเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคได้อย่างดีเลยทีเดียว และยังสามารถโปรโมต Collection ใหม่ให้กับผู้บริโภคได้รับรู้อีกด้วย
3. Product Launching
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสร้างการรับรู้และสร้างประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน ส่วนใหญ่จะใช้การ Live Streaming และดึงดูดด้วย Influencer ที่จะมาช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ดูน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้ควบคู่ไปกับการสร้างแคมเปญใน Social Media ช่องทางอื่นได้อีกด้วย
CASE : Fenty Beauty เป็นแคมเปญเปิดตัวในโลกออนไลน์ได้อย่างสวยงามและเป็นกระแสไปทั่วโลกกับแบรนด์เครื่องสำอาง ของอดีตนักร้องสาวอย่าง Rihanna ซึ่งเธอได้เริ่มสร้างแคมเปญออนไลน์เปิดตัว Product เครื่องสำอางของเธอที่มีเฉดสีให้เลือกกว่า 40 เฉดสีให้เลือก ด้วยความโด่งดังและมีชื่อเสียงของนักร้องสาวที่ผันตัวมาทำธุรกิจอย่างเต็มตัว เปิดแคมเปญด้วยการลงรูปใน Instragram เพื่อสร้างการรับรู้และเป็นที่ฮือฮากับรองพื้น 40 เฉดสีที่สามารถเข้าได้กับทุกสีผิวเลยก็ว่าได้ รวมไปถึงการเปิดตัวผ่านการ Live แต่งหน้า ที่มียอดวิวและยอด Follow เพิ่มขึ้นอย่างมากจนทำให้ถูกยกให้เป็นแคมเปญเปิดตัวที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เลย
4. Virtual Concert
การจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริง อย่างที่ทราบกันดีว่าการจัดงานคอนเสิร์ต รวมไปถึงสถานบันเทิงที่ถูกปิดชั่วขณะ ทำให้เหล่าศิลปินใช้การ Video Live Streaming ในการจัดคอนเสิร์ต สร้างความสุขให้กับแฟนเพลง จึงทำให้เป็นการสร้างประสบการณ์ระหว่างแฟนเพลงและตัวศิลปินเองผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถโต้ตอบกันแบบ Real-time และแสดงความรู้สึกได้ด้วย
CASE : แคมเปญ Together at Home เป็นความร่วมมือระหว่าง Global Citizen และ World Health Organization ดำเนินการจัดขึ้น โดยมีศิลปินนักร้องจากหลากหลากแนวเพลงมาจัด “Virtual Concert Series” ที่บ้านของตัวเอง
ที่ผ่านมาเราอาจเคยเห็นการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้กันมาบ้างแล้ว แต่เมื่อเกิดวิกฤติ COVID-19 ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้กับผู้คนมากขึ้น โดยเฉพาะกับการจัดอีเว้นท์ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จนทำให้เมื่อผ่านพ้นวิกฤติไปได้ ก็จะทให้เกิด New Normal และเราก็จะเห็นการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
#BigCreativeThailand #Event #Organizer #Experience #Technology
#รับจัดอีเว้นท์ #บริษัทอีเว้นท์ #ที่ปรึกษาทางการตลาด
.
Big Creative ที่ปรึกษาด้าน Marketing อย่างครบวงจรของประเทศไทยตั้งแต่กระบวนการวิเคราะห์-วางแผนทางการตลาดเชื่อมโยงผ่านช่องทางการตลาดทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภคทุกช่องทางทั้งในรูปแบบ Offline Marketing และ Online Marketing .
Website www.bigcreativethailand.com
Facebook https://www.facebook.com/bigcreativethailand/
Email bigcreativethailand@gmail.com
Copyright © 2017 BIG CREATIVE Powered by BIG CREATIVE THAILAND.com